รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
เช่น หากคุณเป็นภรรยา แต่งงานกับสามี และคุณปฏิเสธ ที่จะทำเนื้อ (ชาวสัตว์) ให้เขา ความสามัคคีในครอบครัว ก็จะสั่นคลอน เข้าใจไหม เขาอาจจะบังคับให้คุณ ปรุงเนื้อ (ชาวสัตว์) ด้วยซ้ำ นั่นเป็นกรณีที่แตกต่างกัน ในกรณีของคุณ คุณเลือกที่จะ ฆ่า (ชาว) ไก่และ (ชาว) หมู แล้วจึง เสิร์ฟเนื้อของพวกเขาให้คนอื่น ทั้งสองสถานการณ์นี้ มีความแตกต่างกัน แต่ฉันบอกคุณตรง ๆ ว่า แม้ว่าเธอจะซื้อเนื้อ (ชาวสัตว์) และ (ชาว) ปลา ให้สามีของเธอกิน ผู้ที่มีดวงตาสวรรค์เปิด ก็จะมองเห็นปีศาจทำร้ายเธอ ทุกครั้งที่เธอไปตลาด เพื่อซื้อเนื้อ (ชาวสัตว์) และ (ชาว) ปลาจากต่างถิ่น เธอจะโดนปีศาจรุมทำร้าย และล้มลงกับพื้น จากนั้นเธอก็คลานกลับบ้าน เพื่อไปทำอาหาร เพราะเธอไม่มีทางเลือก ในกรณีนี้ พระเจ้าจะอภัยให้เธอ เธอแค่โดน ปีศาจรุมทำร้าย แต่คุณมีทางเลือก ไม่ใช่ลูกค้า ไม่ใช่ชาวสเปน ที่บังคับให้คุณปรุง เนื้อ (ชาวสัตว์) ให้พวกเขา ตัวคุณเองต่างหาก ที่ต้องการหาเงิน หากเราหาเงิน ด้วยวิธีที่บริสุทธิ์ สิ่งที่เรากินเข้าไป ก็จะย่อยง่ายขึ้น และเราจะไม่รู้สึกผิด ถ้าฉันบอกว่าโอเคก็ถือว่าโอเค แต่ความรู้สึกผิดของคุณ จะไม่ทิ้งคุณไป หลังจากที่คุณบำเพ็ญ มาเป็นอย่างดีแล้ว บางครั้งเมื่อคุณ เห็นเนื้อ (ชาวสัตว์) ต่าง ๆ (ชาว) หมู และ (ชาว)ไก่ก็จะเข้ามากัดคุณ และคุณจะบำเพ็ญ ได้ไม่ดีนัก แล้วคุณจะต้องเจ็บป่วยทุกวัน เงินที่คุณได้ จากการขายเนื้อ (ชาวสัตว์) คุณก็ต้องเอาไปให้หมออยู่ดี มันก็เหมือนกัน สุดท้ายแล้วคุณไม่ได้รับ ประโยชน์ที่แท้จริงเลย ฉันบอกคุณตรง ๆ ว่า นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมคนที่ขายเนื้อ (ชาวสัตว์) และ (ชาว) ปลาถึงป่วยเป็นโรค ที่รักษาไม่หาย แม้แต่หมอ ก็ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้ เพราะเงินที่หามาได้ ก็ต้องเสียไป ไม่เพียงแต่จะต้องใช้ในโลกนี้เท่านั้น หลังจากที่เราตายไปแล้ว เรายังจะถูกย่างในนรกอีกด้วย เพราะเราย่างเนื้อ (ชาวสัตว์) ที่นี่ จึงทำให้ เกิดผลข้างล่างนั่นเอง เราจะถูกบาร์บีคิว แบบเดียวกัน นรกก็มีอยู่จริง ถ้าเราไม่ทำสิ่งชั่ว ก็จะไม่มีนรก นรกนั้นถูกสร้างขึ้นโดยตัวเราเอง โปรดอ่านคำถาม ในภาษาสเปนก่อน (“เป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจ พลังบวกของการพัฒนา มันช่วยด้วยพลังด้านลบ ได้อย่างไรบ้างครับ ท่านสามารถยกตัวอย่าง พลังด้านลบ ของการพัฒนาได้ไหมครับ?”) (“ท่านอาจารย์ครับนี่คือคำถาม ของผม ผมเข้าใจพลังบวก ที่ท่านกล่าวถึง ได้ง่ายมาก แต่โปรดอธิบายให้เราทราบว่า พลังบวกนี้สามารถช่วยเราได้ ภายใต้สถานการณ์แบบใด ผมเพิ่งได้ยินท่าน ยกตัวอย่างมามากมายแล้ว โปรดยกตัวอย่างเพิ่มเติม อีกหนึ่งตัวอย่าง เพื่อช่วยให้ผมเข้าใจได้ไหมครับ?”) พลังบวกช่วยเรายังไงบ้าง ใช่ไหม? โอเค ในโลกนี้พลังบวกทำงานหนักมาก แต่เรารู้สึกว่า มันไม่ค่อยช่วยอะไรมากนัก ที่จริง มันก็ช่วยได้ เช่นเมื่อเราสร้าง พลังบวกนี้ขึ้นมา และใช้มัน เราก็จะรู้สึกมีความสุขมาก ในเวลานั้น สมมติว่าคุณเห็นคนคนหนึ่ง ยากจนและเจ็บป่วย ไม่มีใครดูแล จู่ ๆ คุณก็รู้สึกเห็นใจ และมอบเงินให้เขา ดูแลเขาสักพักหนึ่ง โอ้! คุณรู้สึกดีมาก ใช่ไหม? นั่นคือพลังบวกที่ช่วยเหลือ บุคคลนั้นและตัวคุณเอง มันไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถมองเห็น หรือรู้สึกได้ทันที ในภายหลัง เมื่อคุณล้มป่วย คนอื่นจะช่วยเหลือคุณมากขึ้น มากกว่าที่คุณเคย ช่วยเหลือผู้อื่นถึงสิบเท่า สมมติว่าคุณให้เงินใครสักคนหนึ่ง ร้อยดอลลาร์ ภายหลังเมื่อคุณป่วย คนอื่นอาจจะให้เงินคุณ หนึ่งหมื่นดอลลาร์ หรือถ้าคุณไม่ป่วย แต่คุณช่วยคนป่วยบ่อย ๆ ตัวคุณเองก็จะไม่ป่วย นั่นคือวิธี ที่พลังบวกช่วยเรา อย่างไรก็ตาม เราแทบจะไม่เคย ใช้พลังบวกนี้เลย เนื่องจากเราอ่อนแอเกินไป และถูกควบคุมโดยพลังลบ นั่นเป็นเหตุว่าทำไม เราจึงต้องการอาจารย์ผู้รู้แจ้ง ที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เพื่อช่วยเราเปิดก๊อกน้ำ แห่งแหล่งพลังบวกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มันเหมือนกับก๊อกน้ำที่แตก ตอนนี้มันหยด ลงมาทีละหยดทุกวัน อาจารย์ซ่อมมัน และเมื่อเปิดออก "ว้าว!" มีน้ำมากมาย ไม่มีวันหมด ต่อไป เราไม่จำเป็นต้อง เปิดมันอีก มีน้ำอยู่มากมาย ในตัวอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องซ่อม ไม่จำเป็นต้องรอให้น้ำหยด ทีละหยด ซึ่งจะเห็นได้เพียงเล็กน้อย หลังจากผ่านไปหนึ่งวันเต็ม เมื่อเปิดก๊อกน้ำจนสุด น้ำจะไหลอย่างอุดมสมบูรณ์ พลังบวกอยู่ภายในตัวเรา ตัวอย่างเช่น หลังจากการประทับจิต คุณสามารถสื่อสารกับพระเจ้า หรือกับธรรมชาติแห่งพุทธะ กับพระพุทธเจ้าได้ทุกวัน คุณอาจได้พบพระเยซูคริสต์ พระพุทธเจ้า หรือพระโพธิสัตว์กวนอิม เมื่อถึงตอนนั้น เราจะได้เจอหน้ากัน และสามารถถามท่านได้ทุกเรื่อง สิ่งที่เราขอ จะเป็นจริงทันที เมื่อเราเชื่อมโยงกับพลัง ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เราก็จะมีพระพร อันไม่มีที่สิ้นสุดให้นำมาใช้ นั่นคือพลังบวกที่แท้จริง ตั้งแต่นั้น มันดูแลจิตวิญญาณของเรา และในโลกนี้ มันก็ดูแลชีวิตของเราด้วยเช่นกัน ทุกอย่างจะดี ธรรมวิถีกวนอิมรักษาโรคได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นโรคจากความหงุดหงิด ความไม่รู้ ความโลภ ความโกรธ และความโง่เขลา รักษาโรคกรรม ที่นำไปสู่นรก ผีหิวโหย และการเกิดใหม่เป็น (ชาว) สัตว์ เราจะไปแต่สวรรค์ พุทธภูมิเท่านั้น เราไม่ตกนรกอีก และไม่กลับมา ทนทุกข์เป็นมนุษย์อีก เว้นแต่เราจะเลือกมันด้วยตัวเราเอง หากเราปรารถนาจะกลับมา ช่วยเหลือผู้อื่น เราก็อาจจะได้เกิดเป็นมนุษย์ แต่เป็นความสมัครใจ ไม่ใช่ถูกบังคับโดยผลกรรม ไม่เหมือนกับ การเวียนว่ายตายเกิด ความทุกข์ และความไม่รู้ พลังบวก เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ ก่อนที่มันจะเปิดออก เรารู้สึกทุกข์ และเหงาเป็นอย่างมาก พอเปิดออกมาแล้ว อ๊า! เรารู้สึกว่าตนเองยิ่งใหญ่ขึ้น มีพลังมากขึ้น พอใจมากขึ้น มีความสุขมากขึ้น ไม่ขาดสิ่งใดเลย เราไม่ยึดติดกับโลกอีกต่อไป ไม่ยึดติดกับวัตถุสิ่งของทางโลก และสามารถละโลก ได้อย่างง่ายดาย ขณะนี้ พลังบวก ภายในตัวคุณ ยังไม่ได้ถูกเปิดเผย แม้ว่าฉันจะพูดนานครึ่งปี คุณก็อาจจะ ยังไม่เข้าใจดีนัก มันจะเปิดในช่วงการประทับจิต เมื่อมันเปิดออก ทุกวัน คุณจะเข้าใจ ทุกวัน คุณจะรู้ว่า พลังบวกนี้ช่วยเราได้อย่างไร เข้าใจไหม? ตอนนี้มันยังไม่เปิด ฉันจะพูดยังไงได้ เช่น คุณไม่มีเงิน คุณจึงไม่รู้ว่า จะซื้ออะไร เมื่อคุณมีเงิน คุณจะรู้ คุณสามารถซื้อขนมปัง เต้าหู้ กลูเตนข้าวสาลี หรือแม้กระทั่งแต่งงาน (ท่านอาจารย์ครับ เมื่อกี้ ท่านอธิบายเรื่องพลังบวก ท่านช่วยอธิบายด้วยได้ไหมว่า พลังด้านลบสามารถ ช่วยเราได้อย่างไร?) พลังด้านลบ สามารถช่วยเราได้เช่นกัน หากเราสามารถเอาชนะมันได้ ตัวอย่างเช่น ทุกคนบอกว่าเงินเป็นสิ่งล่อใจ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ทำให้คนฆ่ากัน ทำให้คู่รักหย่าร้าง พี่น้องแตกแยก ทำให้ครอบครัวทะเลาะวิวาทกัน เงินดึงดูดใจคนจำนวนมาก มันทำให้คนจำนวนมากหันไป พึ่งสินบน ทำให้เจ้าหน้าที่ทุจริต และทำให้คนดีหลายคน กลายเป็นคนเลว แต่ถ้าเรารู้จักใช้เงิน ยิ่งมีเงินมากก็ยิ่งดี ไม่มีปัญหา! ไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ สำหรับคนโลภ ที่ถูกเงินครอบงำ ยิ่งมีมาก ก็ยิ่งโลภมาก แต่สำหรับคนที่สามารถควบคุมมันได้ ไม่ยึดติด กับเงินทอง เขาก็ใช้มันอย่างอิสระโดยธรรมชาติ ถ้าเขามีเงินเยอะ ก็ดีมาก เขาสามารถช่วยเหลือคนยากจน เด็กกำพร้า แม่ม่าย และสร้าง โรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือคนป่วยได้ ดังนั้นเงินไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเลย ส่วนพลังด้านลบ ก็เหมือนไฟฟ้า ฉันเคยบอกคุณแล้วว่า ไฟฟ้ามีขั้วสองขั้ว อันหนึ่งเป็นบวก อีกอันเป็นลบ หากไม่มีขั้วลบ โคมไฟจะไม่สามารถติดได้ ดังนั้นพลังบวก และพลังลบ ก็คือพลังเดียวกัน เพียงแต่ ทำหน้าที่ต่างกัน เพราะเราไม่รู้จัก วิธีใช้มัน จึงกลายเป็นสิ่งที่ไม่ดี นั่นเป็นเหตุว่า ทำไมเราจึงต้องการอาจารย์ผู้รู้แจ้ง ที่จะสอนเราถึงวิธี เปลี่ยนพลังด้านลบให้กลายเป็น สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อเรา หลังจากได้บำเพ็ญ ธรรมวิถีกวนอิมแล้ว คุณจะเข้าใจ เดิมทีไม่มีดีหรือไม่ดี ไม่มีบวกหรือลบ มันเป็นเพียงการที่เราเห็นมันต่างไป เพราะเราไม่เข้าใจ สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้แจ้ง แม้แต่พลังบวก ก็อาจไม่ดี เขาไม่รู้ว่าจะใช้มันยังไง เขาจึงอาจใช้มันผิดวิธีได้ เช่น ถ้าเขา ยังไม่รู้แจ้ง เมื่อพบ ใครใจดีมีน้ำใจ ก็อาจใช้ ความใจดีนั้น ยืมเงิน แล้วเอาไปดื่มเหล้า เล่นพนันเป็นต้น แต่เมื่อคนเรา รู้แจ้งแล้ว พลังด้านลบก็สามารถเปลี่ยนเป็น สิ่งที่มีประโยชน์ได้ (“ท่านอาจารย์ครับ การประทับจิต ถือเป็นเรื่องสำคัญมากครับ”) ใช่ (“แต่ตอนนี้ ฉันยังตัดสินใจไม่ได้ หากวันหนึ่งฉันตัดสินใจ ที่จะไปบวช กายทิพย์ของท่าน จะมาสอนฉัน ได้ไหมคะ?”) ไม่ เมื่อท่านอาจารย์ มาในกายทิพย์ คุณก็มองไม่เห็น แม้ว่าตอนนี้ ร่างกายของฉันยังอยู่ตรงนี้ คุณก็ไม่อยากทำตาม แล้วกายทิพย์ล่ะ จะยิ่งน้อยลงอีกเท่าไร? กายทิพย์นั้น ไม่มีรูปร่าง ไม่มีความหนาแน่น แม้แต่เมื่อร่างกายของฉันพูด คุณก็ไม่ฟัง แล้วคุณจะฟังสิ่ง ที่ไม่มีรูปร่างได้อย่างไร? คุณจะไม่เห็น กายทิพย์ของฉัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเห็น หากทุกคนสามารถเห็น กายทิพย์ของฉันได้ ฉันก็ไม่จำเป็น ต้องใช้ร่างกายนี้ ฉันสามารถ อยู่ในนิพพาน และส่งกายทิพย์ไปสอนได้ เมื่อพระศากยมุนีพุทธเจ้า ยังมีพระชนม์อยู่ มีคนกล่าวว่าพระองค์มีกายทิพย์ นับพันล้าน แต่พระองค์ยังต้องทำงานหนัก และเดินทางไปทั่ว พระองค์ไม่เพียงแต่ประทับ ใต้ต้นโพธิ์แล้วทรงส่งกายทิพย์ ของพระองค์ออกไป มันง่ายกว่าสำหรับลูกศิษย์ของฉัน ที่จะเห็นกายทิพย์ของฉัน แต่คุณไม่ได้รับการประทับจิต และกรรมของคุณ ก็ไม่ได้รับการชำระล้าง มันยากสำหรับคุณที่จะเห็นมัน แม้ว่าท่านจะมา คุณก็ไม่เห็นท่าน มันไม่ใช่ว่าฉันเลือกปฏิบัติ เพียงแต่คุณถูกอุปสรรคแห่งกรรม บดบังไว้ มันเหมือนกับว่า คุณกำลังสวมเสื้อกันฝน เมื่อฝนตก น้ำก็ไม่อาจเข้าถึงคุณได้ ไม่ใช่ว่าฝนไม่ยอมตก แต่เพราะเสื้อกันฝนของคุณ หนาเกินไป น้ำจึงผ่านไม่ได้ (“ท่านอาจารย์คะ หากใครรักษาศีลห้า แต่ไม่ได้เพ็ญธรรมวิถีกวนอิม จะสามารถพ้นภพภูมิที่สาม ได้หรือไม่?”) ไม่ ไม่ แม้แต่ (ชาว) วัว ก็ยังรักษาศีลห้า! พวกเขายัง... พวกเขาเป็นวีแกนตั้งแต่เกิด พวกเขามีแต่ให้ พวกเขากินแต่หญ้า โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร พวกเขาไม่ฆ่า ไม่ขโมย และไม่โกหก แล้วพวกเขา ก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ! แต่พวกเขายังคงไม่สามารถ ข้ามผ่านสามอาณาจักรได้ ฉันขอโทษ ศีลเพียงช่วยให้เรามั่นคงยิ่งขึ้น และป้องกันไม่ให้เรา สร้างกรรมใหม่ แต่ธรรมวิถีกวนอิม เป็นพลังอย่างหนึ่ง ที่นำพาเรากลับบ้าน เหมือนเครื่องบิน ถ้าคุณซื้อตั๋ว แต่ไม่ได้ขึ้นเครื่อง มันก็ไร้ประโยชน์ แค่ซื้อตั๋ว มันไม่พอ (“ท่านอาจารย์ครับ การที่เราจะเลี้ยงชีพได้ ก็ต้องทำงาน เพื่อเลี้ยงชีพในโลกนี้ครับ หากเราทำธุรกิจ เก็งกำไร เช่น การซื้อขายหุ้น หรืออสังหาริมทรัพย์ มันจะสร้างกรรมด้วยหรือไม่ครับ แล้วสำหรับแม่บ้านที่ทำอาหาร จากเนื้อ (ชาวสัตว์) ต่าง ๆ ให้ครอบครัว สามารถประทับจิตได้หรือไม่ครับ?”) ได้ พวกเขาเข้าร่วมได้ การซื้อขายหุ้นหรือซื้อขายบ้าน ไม่ใช่ปัญหา นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ของการหาเลี้ยงชีพ การขายบ้านไม่ได้หมายถึงการฆ่า เพียงแค่ "ฆ่า" อิฐ เพียงไม่กี่ก้อนเท่านั้น สิ่งที่ฉันหมายถึงก็คือ งานใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการฆ่าไม่ใช่เรื่องดี ต่อการปฏิบัติธรรมของคุณ เพราะถ้า บำเพ็ญน้อย แต่สร้างกรรมมาก ก็ไร้ผล มันเหมือนกับ การมีน้ำเพียงแก้วเดียว ในขณะที่เสื้อผ้าของคุณสกปรกมาก ทุก ๆ วันคุณกลิ้งไปบนฝุ่น ทำให้ตัวเองสกปรกมากขึ้น และคุณมีน้ำ เพียงแก้วเดียวเท่านั้น เสื้อผ้าของคุณ จะสะอาดได้เมื่อไหร่ ไร้ประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องซัก ปล่อยให้มันสกปรกแบบนั้น น้ำหนึ่งแก้วทำความสะอาดอะไรได้ ก่อนที่คุณจะซักผ้า คุณสะสมฝุ่นมากขึ้นทุกวัน น้ำแค่แก้วเดียว คงไม่พอใช่ไหม? เพราะฉะนั้น ฉันจึงบอกว่า คุณต้องรักษาศีลอย่างเคร่งครัด จึงจะได้รับประโยชน์ จากการปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริง มิฉะนั้นก็ลืมมันไปได้เลย อย่าทำมัน Photo Caption: ชีวิตสามารถเป็นความสุขได้ แม้ในถิ่นทุรกันดาร