รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
ถามเขาว่า เขาอยากบวชเมื่อไหร่? (คุณวางแผน จะบวชเมื่อไรครับ?) พรุ่งนี้เหรอ? (ตอนนี้เลยครับ) (เดี๋ยวนี้ครับ เดี๋ยวนี้ครับ เดี๋ยวนี้ครับ เดี๋ยวนี้ครับ เดี๋ยวนี้ครับ เดี๋ยวนี้ครับ) ยินดีต้อนรับ (ยินดีต้อนรับครับ) พรุ่งนี้ พรุ่งนี้เช้า (พรุ่งนี้เช้าครับ) ตอนเช้า แล้วเราจะให้เสื้อผ้า และซื้อผลไม้ให้คุณด้วย ยินดีต้อนรับทุกคน มาที่ที่อยู่ของคุณ (พรุ่งนี้มาบ้านผมนะครับ ผมจะแจ้ง ที่อยู่ของผมให้คุณทราบภายหลัง) ถ้าคุณไม่ทราบที่อยู่ ก็สอบถามเมื่อออกไปในภายหลัง เวลาสิบโมงเช้า (พรุ่งนี้เวลา 10.00 น. เราพร้อม รับใช้ครับ) โอเค มีคำถามอื่นอีกไหม? (“ท่านอาจารย์คะ ท่านได้ปฏิบัติธรรมมาหลายปีแล้ว ท่านสามารถมองเห็นอาณาจักร หยินและหยางได้หรือไม่ มันต่างกันตรงไหนคะ?”) ฉันปฏิบัติธรรม มาตั้งแต่เด็ก มาหลายภพหลายชาติแล้ว ไม่มีความแตกต่าง ระหว่างหยินและหยาง ความแตกต่างอยู่ที่ใจของเราเท่านั้น หยินและหยางเดิมทีเป็นหนึ่งเดียวกัน ดูที่ไฟฟ้าสิ มันเป็นการรวมกัน ของหยินและหยาง แต่คุณมองเห็นไหมว่าในไฟฟ้า อันไหนคือหยิน และอันไหนคือหยาง เมื่อแยกออกจากกัน แล้วจะไม่มีไฟฟ้า โอเค (“ท่านอาจารย์คะ หากเราตัดสินใจไม่ได้ว่า จะรับการประทับจิตจากท่านหรือไม่ และหากเรามีคำถาม ในอนาคต ท่านอาจารย์จะตอบเราหรือไม่?”) หากคุณเขียนถึงฉัน หรือมาพบฉัน ฉันจะตอบกลับ สำหรับผู้ที่ได้รับ การประทับจิตแล้ว พวกเขาจะได้รับ คำตอบโดยตรงในหัวใจของพวกเขา บางครั้งคำตอบก็มาแล้ว ก่อนที่จะเขียน พอพวกเขาเขียนคำถาม คำตอบก็อยู่ที่นั่น เพราะมีการสื่อสารกันโดยตรง ระหว่าง อาจารย์กับลูกศิษย์ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ประทับจิต มันยากกว่า คุณสามารถเขียนถึงฉันได้ โอเคไหม? นอกจากนี้ อีกหนึ่งสัปดาห์ ฉันจะบรรยายสองวัน หากคุณไม่ได้รับการประทับจิตในวันนี้ โปรดพิจารณาใหม่ในสัปดาห์หน้า มิฉะนั้น คุณก็ต้องรอจนถึงปีหน้า หรือชาติหน้า หรืออีกหลายชาติข้างหน้า หลังจากผ่านไป หนึ่งร้อยปี หนึ่งร้อยกัลป์ หรือหนึ่งพันปี มีเวลาเหลือเฟือ จงใช้เวลาของคุณ การเวียนว่ายในสังสารวัฏ ก็สนุกดีเหมือนกัน (“ท่านอาจารย์คะ หลังจากบวชแล้ว ถ้าฉันละเมิดศีลโดยไม่ไตร่ตรอง จะมีผลอะไรไหมคะ? ฉันสามารถ สารภาพบาปได้เหมือนในศาสนา คริสต์นิกายโรมันคาธอลิกหรือไม่?”) การสำนึกผิดนั้น มีประโยชน์ แต่เราต้องจริงใจ ที่จะไม่ทำผิดซ้ำอีก แล้วมันจะเกิดประโยชน์ ในช่วงการประทับจิต ฉันจะบอกคุณ ว่าจะหลีกเลี่ยงการทำผิดพลาด ได้อย่างไร และต้องทำอย่างไร หลังจากทำผิดพลาด ฉันจะบอกให้ทราบทั้งหมด แต่ต้องใช้เวลานานหน่อย ไม่สามารถตอบได้ ในประโยคเดียวหรือสองประโยค ในช่วงการการประทับจิตจริง ฉันจะอธิบายทุกอย่างเพื่อให้คุณรู้ว่า ต้องเดินตามเส้นทางอย่างไร มันไม่ใช่แค่ "ฮูลาฮูป" แล้วก็จบ มันใช้เวลาหลายชั่วโมง โอเค (“ท่านอาจารย์คะ มีพระพุทธเจ้า ที่ยังมีชีวิตอยู่เช่นท่าน กี่พระองค์ในโลกนี้ ที่สามารถช่วยผู้คนได้? เพราะที่ไต้หวัน (ฟอร์โมซา) ก็มีคน ๆ หนึ่ง ที่อ้างว่าเป็นพระเจ้านี่นั่น มายังโลก เพื่อช่วยเหลือผู้คน และเขายังเน้นการ ปฏิบัติธรรมอีกด้วย”) ฉันรู้ ไปถามเขาสิว่า "อาจารย์ชิงไห่คือใคร?" แล้วเขาจะบอกคุณ เขาจะบอกระดับของฉัน และความแตกต่าง ระหว่างฉันกับเขา โอเคไหม? (“ท่านอาจารย์คะ การจะ เข้าถึงสวรรค์ได้นั้น จะต้องผ่าน การประทับจิตของท่านเท่านั้นหรือ? หรือว่ามันเป็นตามศาสนาคริสต์ โดยการสวดภาวนาทุกวัน และปฏิบัติตาม พระบัญญัติของพระเยซู (เจ้า) เพื่อว่าเมื่อถึงเวลาเสียชีวิต พระเยซู (เจ้า) จะพาเราขึ้นสวรรค์ใช่หรือไม่?”) คุณจะต้องเชื่อมโยง กับ (พระ) เยซูคริสต์ รับการประทับจิตก่อน จากนั้นคุณจึงจะสามารถ พบพระองค์ได้ และรู้แน่ชัดว่า พระองค์จะเสด็จมารับคุณ เมื่อคุณเสียชีวิต หากคุณไม่สามารถ เห็นพระองค์ตอนนี้ คุณจะเห็นท่าน ได้อย่างไรหลังจากที่คุณตาย มันจะยากมากเลย นอกจากนี้ ฉันยังเป็นเพื่อน ของพระเยซู (เจ้า) ด้วย ตอนนี้ ฉันกำลังทำงาน ที่พระองค์ยังทำไม่เสร็จ หากคุณทำตามฉัน... พวกเขารู้ แต่คุณไม่รู้ คุณถึงไม่เข้าใจว่า ทำไมพวกเขาถึงปรบมือ เพราะคุณยังไม่ได้ประสบ กับสิ่งที่พวกเขาได้ประสบ หากคุณทำตามฉัน คุณจะได้พบกับ (พระ) เยซูคริสต์ อย่างแน่นอน คุณจะได้เห็นพระองค์ในชีวิตนี้ ไม่จำเป็นต้องรอจนตาย การทำตาม (พระ) เยซูคริสต์ หมายความว่าอย่างไร มันก็คือการรักษาศีล นั่งสมาธิ และได้ปัญญา ไม่ใช่แค่การรักษาศีล ไม่ใช่แค่การสวดมนต์อย่างเดียว เพราะ (พระ)เยซูคริสต์ทรงประทับจิต ให้ลูกศิษย์ของพระองค์ด้วยตัวเอง พระองค์เองก็ได้รับ การประทับจิตด้วย ในระหว่างที่พระองค์ทรงรับ การประทับจิต รัศมีแห่งจิตวิญญาณ ลอยลงมาจากสวรรค์ เป็นสีขาวเหมือนนกพิราบขาว แล้วถ้าเราไม่มีสัญญาณนี้ ไม่มีการยืนยันดังกล่าว เราจะบอกได้อย่างไรว่า เรากำลังสื่อสารกับพระเจ้า ฉันได้อธิบายไปแล้วว่า หากเราต้องการสื่อสาร กับพระเจ้า เราก็ควรบำเพ็ญเช่นเดียวกับ (พระ) เยซูคริสต์ เราควรเห็นพระเจ้า และได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า เพื่อรับประกันการปลดปล่อยของเรา และเป็นหนึ่งเดียวกับ (พระ)เยซูคริสต์ อย่างแท้จริง และอาศัยอยู่ในสถานที่เดียวกัน ไม่เช่นนั้น พระองค์ก็คือพระองค์ และเราก็คือเรา หากคุณต้องการเป็น มหาเศรษฐีพันล้าน คุณไม่สามารถ แค่ยืนอยู่หน้าประตูบ้าน ของมหาเศรษฐีคนนั้นตลอดทั้งวัน ภาวนาขอพบเขา คุณควรเป็นเหมือนเขา ทำธุรกิจ ทำงาน และทุ่มเทความพยายาม เขาอาจจะให้คุณยืมเงิน แต่ตัวคุณเองก็ควรทำงาน คุณไม่สามารถแค่สวดมนต์ตรงนั้น นอกจากนี้ มหาเศรษฐีคนนี้ ก็ตายไปแล้ว คุณไม่รู้ว่าทรัพย์สมบัติของเขา อยู่ที่ไหน การจะอธิษฐานถึงเขาไม่มีประโยชน์ เมื่อ(พระ)เยซูคริสต์ยังทรงพระชนม์ การอธิษฐานถึงพระองค์ เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ตอนนี้พระองค์ จากไปแล้ว คุณควรอธิษฐานถึงคนอื่น เช่น ในอดีต มีแพทย์ที่เก่งมาก ฮวาถัวและเปียนเชว่ ผู้สามารถ รักษาโรคภัยไข้เจ็บของผู้คนได้ แต่ตอนนี้พวกเขาไปแล้ว เมื่อเราเจ็บป่วย ก็ควรไปพบแพทย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ (ท่านอาจารย์คะ) ยังมีอีกมากไหม? (อีกอันหนึ่งค่ะ) เราจำเป็นต้องเริ่มการประทับจิต และเวลาก็สั้น (โอเค อีกคำถามหนึ่งนะคะ “ท่านอาจารย์คะ ในหนังสือของท่าน มีเขียนไว้ว่า ‘ห้ามพิมพ์ซ้ำ’ นั่นหมายความว่าท่านไม่ต้องการให้ คนอื่นพิมพ์หนังสือของท่านใช่ไหม? มันยังหมายถึงว่า ท่านไม่ต้องการ ให้ผู้คนเข้าถึงความรู้อันล้ำค่า และเรียนรู้เกี่ยวกับ ธรรมวิถีของท่านใช่ไหม?”) “การพิมพ์ซ้ำ” คืออะไร? (มันคือการพิมพ์หนังสือของท่าน ขึ้นมาใหม่ การจัดพิมพ์หนังสือของท่านค่ะ พิมพ์ซ้ำค่ะ) โอ้! นั่นเป็นเพราะ เรากลัวว่าจะมีใครบางคน แอบพิมพ์หนังสือแค่บางส่วน แล้วใส่ความเห็น ไร้สาระลงไป คนที่ไม่รู้แจ้ง หรือคนที่แค่อยากทำธุรกิจ พวกเขาจะสร้างกรรม ให้กับตัวเอง และเราต้องการปกป้องพวกเขา เนื่องจากในไต้หวัน (ฟอร์โมซา) มีการพิมพ์ซ้ำ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นจำนวนมาก พวกเขาพิมพ์สิ่งต่าง ๆ ออกมา อย่างเละเทะ หยิบเพียงประโยค หรือสองประโยค จากนั้นก็ใส่ความคิดเห็นมากมาย ซึ่งเป็นเรื่องไร้สาระ และเป็นอันตรายต่อสาธารณะ นอกจากนี้ พวกเขายังพิมพ์หนังสือ ของฉันเพียงบางส่วนเท่านั้น จากนั้นก็เพิ่มโฆษณา ของพวกเขาเองและอะไรก็ตามลงไป ขายเนื้อ (ชาวสัตว์) (ชาว) ปลา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือเซ็กส์ หลายสิ่งมากมาย! ฉันกังวลว่า คนพวกนั้น จะสร้างกรรมชั่ว ฉันไม่กลัวว่า พวกเขาจะพิมพ์หนังสือ ของฉันให้คนอื่นอ่าน ถ้าพวกเขาทำอย่างนั้น โดยไม่เคารพหนังสือของฉัน พวกเขาก็จะสร้างกรรมขึ้นมา และคนที่ได้รับหนังสือ เหล่านั้น ก็จะไม่เคารพคำสอนของฉันด้วย เพราะเมื่อเขาเห็น สิ่งเหล่านี้ด้วยกัน เขาจะคิดว่า ฉันก็อยู่ในชนชั้นนั้น และสูญเสียความเคารพ ถ้าไม่มีความเคารพแล้ว พวกเขาจะมาเรียนรู้ได้อย่างไร? มันก็ไร้ประโยชน์ หนังสือของฉันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะซื้อ มันมี เฉพาะตอนที่ฉันบรรยายเท่านั้น ในช่วงหกปีที่ฉันอาศัย อยู่ที่ [ไต้หวัน (ฟอร์โมซา)] ฉันไม่ได้ขายหนังสือของฉัน อย่างเปิดเผย เพราะฉันกลัวว่า คนส่วนมากจะนำไปใช้เพื่อเงิน แล้วสร้างกรรม และทำร้ายผู้อื่น พวกเขาจะยกมาแค่เล็กน้อย ยกมาสักประโยคหรือสองประโยค แล้วแสดงความคิดเห็น คนปกติเองก็ไม่เข้าใจ คำสอนของพวกเขาเหมือนกัน แต่พวกเขาก็ยังอยาก วิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นอยู่ดี นั่นคือสิ่งที่ฉันกลัว (เราได้ตอบคำถามครบแล้วค่ะ) เสร็จแล้ว มหัศจรรย์ (ท่านอาจารย์ครับ ผมยังมีคำถามอีกข้อหนึ่งครับ) การไม่มีคำถามเป็นคำถามที่ดีที่สุด (ท่านครับ ผมยังมีคำถาม อีกข้อหนึ่งครับ) (“ทำไมท่านถึงตัดผม ออกหมดครับ?”) (“ท่านอาจารย์ ทำไมท่านจึงโกนศีรษะครับ?”) โอเค งั้นฉันจะพิจารณา ไว้ผมยาวในอนาคต โอเคไหม? (เอาล่ะ ในอนาคต ฉันอาจจะลองไว้ผมดูบ้าง) แล้วทำไมคุณถึงยังไว้ผมล่ะ ยุ่งยากมากมาย ต้องสระผมทุกวัน หวีผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเป่าให้แห้ง... และต้องดัดผม ม้วนผม และไดร์ให้แห้งแบบนี้ การโกนผม จึงสะดวกมากสำหรับฉัน แค่รสนิยมที่แตกต่างกัน วิธีของฉันประหยัดกว่า ประหยัดเงิน และประหยัดแรง เพราะฉันเป็นแม่ชี เดิมที พระ พระสงฆ์ ในศาสนาพุทธ ตามประเพณีของอินเดีย จะต้องโกนศีรษะ แต่การโกนหัว ไม่ได้เกี่ยวอะไร กับการรู้แจ้งเลย คุณสามารถบรรลุธรรมได้ โดยมีผมหรือไม่มีผมก็ได้ แค่ว่าฉันชินกับการโกนแล้ว ฉันเลยโกนต่อไป ถ้าฉันไม่ทำ มันจะคัน คุณคุ้นเคยกับการมีผม ดังนั้น การโกนจึงรู้สึกไม่สบายตัว มันเป็นเพียงเรื่องของนิสัย ฉันสามารถไว้ผมยาวได้อีก ถ้าฉันต้องการหรือจะโกนผมอีกก็ได้ สิ่งนี้ไม่สำคัญ โดยส่วนตัวแล้ว ฉันคิดว่าการโกนหัว สะดวกสบายและสะอาดมาก ไม่ต้องดัดผม ใช้เครื่องมือเยอะแยะ คุณลองจินตนาการว่า ฉันเดินทางไปทั่วเพื่อบรรยาย และยังต้องใช้เวลาทั้งหมด ไปกับการดูแลเส้นผมดูสิ ฉันคงหมดแรง ก่อนที่จะได้ออกมาพูดด้วยซ้ำ ฉันต้องสระผม ใช้ที่ม้วนผม ไดร์เป่าผม... แล้วฉันจะมีเวลา ไปบรรยายเมื่อไหร่? คุณรู้ไหมว่า คุณใช้เวลากับผมกี่ชั่วโมง? ยุ่งมากเลยใช่มั้ย? ฉันจึงโกนศีรษะเพื่ออุทิศเวลา ให้กับการช่วยเหลือผู้อื่น ฉันไม่จำเป็นต้องดูสวย ฉันเป็นแม่ชี ฉันไม่จำเป็นต้องดูสวย การโกนศีรษะของฉันหมายถึง การละทิ้งรูปลักษณ์ภายนอก ฉันไม่สนใจมันอีกต่อไป มันเป็นเพื่อประโยชน์ในการรับใช้ผู้อื่น ฉันไม่สนใจว่า ฉันจะดูดีหรือไม่ ประหยัดเวลาได้เยอะ สุขอนามัยดีกว่า และประหยัดเงินได้เยอะ การดัดผมนี่ แพงมากเลยใช่มั้ย แล้วฉันก็ต้องจองคิวด้วย การนัดหมาย โทร: "วันนี้มีเวลาดัดผมให้ฉันไหม?" ถ้าเธอบอกว่า “มี” ฉันก็ไปได้ หลังจากดัดผมเสร็จ แล้วกลับมานอน แล้ววันรุ่งขึ้น ผมก็พังอีกแล้ว ถ้าวันถัดไป ฉันต้องบรรยาย ฉันก็ต้องยืดมันอีก มันเสียทั้งเวลาและเงินมากมาย ฉันจึงคิดว่าการโกนเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ฉันจึงทำต่อไป แต่หากวันหนึ่ง โลกไม่ผลิตมีดโกนอีกต่อไป ผมของฉันก็จะยาวขึ้นมาอีกครั้ง อย่ามองที่ศีรษะของฉัน จงดูที่ปัญญา ดูที่ดวงตา ไม่ใช่ดูที่ศีรษะของฉัน ตกลงไหม! (ท่านอาจารย์คะ วันนี้มีบางคน อยากเข้าพิธีประทับจิตค่ะ) กี่คน มีคนที่ต้องการประทับจิตกี่คน คุณได้นับมั้ย? (ขณะนี้ มี 13 คนค่ะ) 13 เท่านั้น (ใช่ค่ะ มีผู้ลงทะเบียนก่อนการบรรยาย แต่ยังไม่มีใคร ลงทะเบียนหลังการบรรยายค่ะ) (เรามีผู้ที่จะ รับการประทับจิต ประมาณ 13 คนครับ) นอกจาก ผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว มีใครอยากลงทะเบียน อีกไหม (ผู้ที่สนใจรับ...) สามารถลงทะเบียนได้แล้วตอนนี้ (...สามารถลงทะเบียนประทับจิต ได้ที่โต๊ะประชาสัมพันธ์นะครับ) คนอื่น ๆ อาจจะกลับบ้านตอนนี้แล้ว (ผู้ที่ไม่ประสงค์จะรับการประทับจิต ก็สามารถออกไปได้ สวัสดีตอนเย็นครับ) ไว้เจอกันใหม่คราวหน้า (ขอบคุณที่มานะคะ) ขอบคุณ (ขอบคุณครับ) (และเราขอบพระคุณ ท่านอาจารย์ สำหรับการบรรยายค่ะ) (ท่านอาจารย์อยากพักไหมครับ?) โอเค ฉันขอพักสักหน่อย เมื่อคุณพร้อม ก็โทรหาฉันได้เลย (ขอส่งท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพนะคะ) หรือ...หลังจากการประทับจิตวันนี้ เราจะส่งพวกเขากลับบ้าน หากไม่สะดวกในการเดินทาง ภายหลังเราจะจัดลูกศิษย์ไปรับคุณ ที่บ้าน เพื่อให้คุณสามารถอยู่จนดึก เพื่อรับการประทับจิต กลับบ้านได้เร็วขึ้น โอเค ราตรีสวัสดิ์ ขอให้คุณทุกคนรู้แจ้ง ในเร็ววัน! ลาก่อน เจอกันใหม่คราวหน้า มาฟังการบรรยายอีกครั้ง ที่คุณมีเวลา ผู้ที่ต้องการรับการประทับจิต ลงทะเบียนได้เลยตอนนี้ ฉันจะกลับมาใหม่ในภายหลัง (ผู้ที่ต้องการรับการประทับจิตวันนี้ กรุณาอยู่ต่อ ไปที่ด้านหน้าเพื่อลงทะเบียน ท่านอาจารย์จะกลับมาเร็ว ๆ นี้) หากคุณต้องการรับการประทับจิต แต่ยังมีข้อสงสัย หรือไม่แน่ใจ คุณสามารถถามอาจารย์ภายในได้ หากคุณได้ตัดสินใจแล้ว คุณสามารถอยู่ที่นี่ได้ คนอื่น ๆ สามารถกลับไปได้ Photo Caption: ผลทางจิตวิญญาณ ส่งมาจากบ้าน
